|
ประเภทนวัตกรรม
การเรียนการสอน
ปีที่พัฒนา
2563
ชื่อผู้พัฒนา
สาวนี คุ่ยเจริญ
หน่วยงาน
โรงเรียนเทศบาลวัดเนินสุทธาวาส (สุทธิพงษ์ประชานุกูล) สังกัด สพฐ.
แนวคิด มมโนทัศน์ หรือสาระสำคัญ
การจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด
วัตถุประสงค์เฉพาะ
พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
กระบวนการพัฒนานวัตกรรมและขั้นตอนในการใช้นวัตกรรม
รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 องค์ประกอบรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ใช้รูปแบบ ACLC Model ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน การทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knowledge : A) การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning : C) ขั้นเรียนรู้สิ่งใหม่ (Learning : L) และสรุป และขยายผล (Conclusion and Extend Results : C)
สื่อและแหล่งเรียนรู้
รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ใช้รูปแบบ ACLC Model ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน การทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knowledge : A) การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning : C) ขั้นเรียนรู้สิ่งใหม่ (Learning : L) และสรุป และขยายผล (Conclusion and Extend Results : C)
การวัดและประเมินผล
การถอดบทเรียน พบว่า นักเรียนชอบวิธีการสอนของครูที่ให้นักเรียนสรุปข้อมูลโดยการเรียบเรียงความคิดของนักเรียนออกมาเป็นเรื่องราว มีกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งใบงานต่างๆ เกมคำศัพท์ และการใช้รูปประกอบในการอธิบายคำศัพท์ ทำให้นักเรียนสามารถจดจำคำศัพท์ได้มากขึ้น การทำงานเป็นกลุ่มทำให้นักเรียนมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน ทำให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหาของวิชาภาษาอังกฤษมากขึ้น การนำเสนองานหน้าชั้นเรียนทำให้นักเรียนมีความกล้าแสดงออก และการให้นักเรียนเขียนผลงานของตนเอง ทำให้สามารถเพิ่มทักษะ และพัฒนาความสามารถของตนเองได้ ส่วนการวัดประเมินผลที่ให้นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายชั่วโมง สามารถทำให้นักเรียนมีความเข้าใจในเนื้อหาเพิ่มมากขึ้น มีการวัดประเมินที่ชัดเจน สรุปได้ว่านักเรียนสามารถเขียนภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น
บทบาทศึกษานิเทศก์/บทบาทครู/บทบาทนักเรียน
กิจกรรมตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด ที่ครูใช้สอนหนู เรียนแล้วสนุกมากเลยค่ะ ทำให้หนูชอบการเขียนภาษาอังกฤษมากขึ้น เพราะมันเป็นวิธีการที่ทำให้หนูได้เขียนความคิดออกมาก่อน ที่จะเขียนเป็นประโยค ทำให้หนูได้รู้ถึงวิธีการเขียนที่ง่ายขึ้นอีกวิธีหนึ่ง และเพื่อนๆ ทุกคน ในกลุ่มก็ยังช่วยกันทำงานอีกด้วย ซึ่งมันทำให้หนูกล้าที่จะคิดและเขียนงานได้ดีขึ้น และครูก็มีใบกิจกรรมให้หนูทามากมาย ตอนแรกหนูคิดว่ากิจกรรมต่างๆ จะยากเกินไปสำหรับหนู แต่จริงๆ แล้วมันง่ายกว่าที่คิดมากเรียนแล้วเข้าใจและสามารถเขียนภาษาอังกฤษได้มากขึ้นค่ะ
ข้อควรระวัง/ข้อพึงระวัง
จากการวิจัยพบว่า ผลการเรียนภาษาอังกฤษโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด ทำให้คะแนนความสามารถในการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนสูงขึ้น และนักเรียนมีเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษ โดยรวมอยู่ในระดับมาก การที่จะนำกิจกรรมการเรียนการสอนดังกล่าวนี้ ไปใช้ในการพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ ดังต่อไปนี้
1.1 ครูควรเตรียมสื่อนวัตกรรมการศึกษาให้พร้อมก่อนสอนทุกครั้ง เช่น ใบงาน ใบความรู้ สื่อและอุปกรณ์ที่จำเป็น
1.2 ครูมีหน้าที่คอยเป็นผู้ชี้แนะรูปประโยคและคำศัพท์ยากๆ ที่นักเรียนต้องการการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะครูต้องคอยให้กำลังใจและเสริมแรงนักเรียนที่เรียนอ่อนเพื่อไม่ให้นักเรียนเกิดความท้อถอย และเบื่อหน่าย
1.3 ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ B-SLIM Model เพื่อส่งเสริมทักษะการฟังและการพูด ไม่ควรจำกัดเวลาในการทำกิจกรรมของนักเรียนจนเกินไป ควรมีเวลาให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมอย่างเต็มที่ ครูควรอธิบายขั้นตอนฝึกเขียนแผนผังความคิดให้ชัดเจน มีการยกตัวอย่างให้นักเรียนทำความเข้าใจ
1.4 การปฏิบัติกิจกรรมใบงาน ควรเป็นเนื้อหาที่มีความยากง่ายเหมาะสมกับระดับความสามารถของนักเรียน ควรมีตัวอย่างที่หลากหลาย มีรูปภาพประกอบ เพื่อกระตุ้นความสนใจให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียน
1.5 เนื่องจากการฟังและการพูดเป็นทักษะที่ยากและซับซ้อน การใช้เวลาในการฝึกการฟังและการพูด ครูผู้สอนต้องจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้มีความยืดหยุ่น เปิดโอกาสให้นักเรียนฟังและพูดได้อย่างอิสระ แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนๆ ในชั้นเรียน
|