[x] ปิดหน้าต่างนี้
Powered by _SCRIPT _VERSION
 Home Research Innovation วิธีนำเสนอผลงาน สมัครสมาชิก คู่มือการใช้



ชื่องานวิจัย
นางนันทนา ภาโนชิต. (2558). ผลการใช้สตอรีแกรมมาที่มีต่อทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
 
  เข้าชม 1,635 | แชร์   
 
บทคัดย่อ
1. คำถามวิจัย
-
2. วัตถุประสงค์
1. เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรม
1.1 ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้
สตอรีแกรมมาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70
1.2 ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้การสอนแบบปกติที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70
2. เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
โดยใช้สตอรีแกรมมาและโดยใช้การสอนแบบปกติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
3. เพื่อเปรียบเทียบทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม
4. เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้
สตอรีแกรมมาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

3. สมมติฐานการวิจัย
นักเรียนกลุ่มทดลองที่เรียนโดยใช้สตอรีแกรมมามีทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจสูงกว่ากลุ่มควบคุม
4. วิธีการดำเนินการวิจัย
กลุ่มตัวอย่าง
1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1.1 ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนหนองนาคำวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25
จาก 4 ห้องเรียนจำนวนนักเรียน 130 คน มีการจัดห้องเรียนแบบคละกันซึ่งประกอบด้วยนักเรียน
ที่มีระดับความสามารถสูง ปานกลางและต่ำเป็นเกณฑ์ในการจัด
1.2. กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนหนองนาคำวิทยาคม อำเภอหนองนาคำ จังหวัดขอนแก่นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 25 จำนวน 70 คน ที่ได้รับการจัดห้องเรียนแบบคละกัน ประกอบไปด้วยนักเรียนที่มีระดับความสามารถเก่ง ปานกลาง และอ่อน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เพื่อจัดเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 1 ห้อง ทำการสุ่มนักเรียนจำนวน 2 ห้อง ดังนี้
1.2.1 กลุ่มทดลองคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 จำนวนนักเรียน 35 คน
ได้รับการสอนโดยใช้สตอรีแกรมมา
1.2.2 กลุ่มควบคุมคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 จำนวนนักเรียน 35 คน
ได้รับการสอนแบบปกติ

เครื่องมือที่ใช้
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิดประกอบด้วย
1. แผนการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้สตอรีแกรมมาของ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 แผน แผนละ 3 ชั่วโมง รวม 24 ชั่วโมง
2. แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 4 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัย จำนวน 40 ข้อ แบบอิงเกณฑ์
3. แบบสอบถามปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้
สตอรีแกรมมา ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มี 3 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านภาษา จำนวน 6 ข้อ (2) ด้านกิจกรรม จำนวน 9 ข้อ และ (3) ด้านจิตใจ จำนวน 4 ข้อ รวมทั้งหมด 19 ข้อ

ช่วงเวลาการทดลอง
ระยะเวลาในการวิจัย 1 ภาคเรียน คือ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จากเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ถึงเดือน กันยายน พ.ศ. 2557
การวิเคราะข้อมูล
ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับขั้นตอน ดังต่อไปนี้
ตอนที่ 1 การวิเคราะห์เพื่อหาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรม
1.1 ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ
ความเข้าใจโดยใช้สตอรีแกรมมาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70
1.2 ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อ
ความเข้าใจโดยใช้การสอนแบบปกติที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70
ตอนที่ 2 การวิเคราะห์หาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ
เพื่อความเข้าใจโดยใช้สตอรีแกรมมาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ตอนที่ 3 การวิเคราะห์เปรียบเทียบทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจระหว่าง
กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม
ตอนที่ 4 การวิเคราะห์แบบสอบถามปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อทักษะการอ่าน
ภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้สตอรีแกรมมาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

5. ผลการวิจัย
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรม
1.1 ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้
สตอรีแกรมมาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 68.08/66.27
1.2 ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดย
การสอนแบบปกติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เท่ากับ 63.09 /60.15
2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดย
ใช้สตอรีแกรมมาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.4886 และดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยการสอนแบบปกติ มีค่าเท่ากับ 0.4126
3. คะแนนเฉลี่ยของทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้สตอรีแกรมมาสูงกว่า
คะแนนเฉลี่ยของการสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ปัญหาและอุปสรรคที่มีต่อทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้สตอรีแกรมมา
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีระดับปัญหามาก ได้แก่ (1) ไม่รู้ความหมายของคำศัพท์ ค่าเฉลี่ยและ
ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน เท่ากับ =4.63, S.D. =.487 (2) ไม่คุ้นเคยกับกิจกรรม ค่าเฉลี่ยและส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ =4.71, S.D. =.455 (3) วิตกกังวลและเครียดเวลาอ่าน ค่าเฉลี่ยและส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ =4.51, S.D. =.503

6. การใช้ประโยชน์
1. ข้อเสนอแนะในการนำไปใช้
1.1 ครูควรให้ความสำคัญกับการปฐมนิเทศเพื่อเตรียมความพร้อมของนักเรียน ก่อนการทดลอง ด้วยการให้ความรู้ความเข้าใจองค์ประกอบของสตอรีแกรมมา อย่างละเอียดและชัดเจน
1.2 ครูควรเน้นคำศัพท์ที่ยากและสำนวนเพื่อให้นักเรียนคุ้นเคยกับสังคมวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่อ่าน
1.3 สตอรีแกรมมาเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมการอ่านเพื่อความเข้าใจโครงสร้างของเรื่องที่อ่านอย่างละเอียด ดังนั้นการเลือกเนื้อหาที่จะนำมาสอนต้องสอดคล้องกับสตอรีแกรมมา 1.4 ครูควรมีเวลาในการทำกิจกรรมที่สามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม 1.5 การใช้สตอรีแกรมมาครูตั้งคำถามกระตุ้นการวิเคราะห์เรื่องและความรู้เดิมของนักเรียน เมื่อนักเรียนได้รับคำถามเดิมซ้ำๆ จะทำให้นักเรียนจดจำแนวทางในการถามและนำไปใช้ในการตอบคำถาม สามารถลดความวิตกกังวลในการอ่านได้


7. แหล่งทุน/รางวัลที่ได้รับ
ไม่มี

 


กลุ่มวิจัยและส่งเสริมการวิจัยทางการศึกษา สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
อาคาร สพฐ. 5 ชั้น 10 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เขตดุสิต กทม. 10300
ติดต่อผู้ดูแลระบบ : reis.obec@gmail.com โทรศัพท์ 0 2288 5883